
ขลุ่ยเพียงออ เป็นเครื่องดนตรีไทยดั้งเดิม มีความเป็นมายาวนานนับพันปี ซึ่งในหลักการทางดนตรีขลุ่ยประเภทนี้ได้ถูกจัดประเภทในส่วนของเครื่องเป่าที่ไม่ม่ลิ้น แต่จะใช้หลักการเปล่งเสียงผ่าน “ดาก” รูปทรงและลักษณะจะเป็นทรงกระบอกเรียวเล็ก ขนาดความยาวพื้นฐานคือ ๔๕ – ๔๘ เซนติเมตร มีการเจาะรูตรงส่วนด้านหน้า เพื่อใช้วิธีการปิดรูตามหลักการวางตำแหน่งนิ้ว ให้ตรงกับเสียงตัวโน๊ตสูง-ต่ำ ที่มีทั้งหมด 12 เสียงตามคีย์อย่างเครื่องดนตรีสากล จุดเด่นเครื่องดนตรีไทยชนิดนี้ เป็นเครื่องเป่าที่มีพื้นเสียงใส แต่เสียงนั้นกลับก้องกังวาน และมีเสียงคีย์ที่อยู่ในระดับกลาง ขลุ่ยประเภทนี้จึงนิยมนำมาร่วมบรรเลง ร่วมกับวงดนตรีปีพาทย์ เหตุเพราะเสียงคีย์ในระดับกลาง จะสามารถผสมผสานให้เข้าร่วมกับเครื่องดนตรีชนิดหลักได้ง่าย และพริ้วไหวอย่างลงตัว จึงไม่แปลกใจเลยที่เครื่องดนตรีไทยเดิมชนิดนี้ จะเป็นเครื่องเป่าที่มีเนื้อเสียงโดดเด่น ไพเราะจับใจ
ประวัติความเป็นมาของเครื่องเป่าดนตรีไทยดั้งเดิม
อาจจะกล่าวได้ว่า “ขลุ่ย ” เครื่องดนตรีไทยชนิดนี้นั้น เป็นเครื่องดนตรีของศิลปินไทยโดยแท้จริง เพราะเป็นการคิดค้นจากนักดนตรี และศิลปินนักประดิษฐ์ของไทย ที่ได้มีวิวัฒนาการมาเป็นเครื่องดนตรีไทย อย่างขลุ่ยในปัจจุบัน และความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาตร์ของชาติกับเครื่องดนตรีไทยชนิดนี้ก็มีให้ศึกษาวิถีชีวิตของผู้คนในยุคโบราณ โดยเมื่อครั้งสมัยกรุงสุโขทัยกำลังเฟื่องฟู ก็ทำให้อารยธรรมทางด้านดนตรีของผู้คนในกรุงมากขึ้นด้วยมีการสันนิษฐานกันว่าที่มาของเครื่องเป่านี้คือเครื่องดนตรีที่มีชื่อว่า ปี่อ้อ ซึ่งเป็นเครื่องเป่าดนตรีไทยที่มีแตก ประเภทที่อยู่ในกลุ่มของ ปี่ หมายถึงการบรรเลงจะต้องผ่านทางช่องลิ้น ซึ่งนี่คือส่วนที่ต่างกัน แต่ในส่วนของลักษณะรูปทรงรวมทั้งเนื้อเสียงที่ออกมาเป็นทำนองเพลงต่างๆนั้น มีความไพเราะและมีเนื้อเสียงที่ใส และพริ้วไหวที่เหมือนกัน
วิธีการเลือก ขลุ่ยเพียงออ เครื่องดนตรีไทยให้เหมาะสมตนเอง
หลักการเลือกเครื่องดนตรีไทยประเภทเป่า หรือ ขลุ่ยทุกชนิดนั้น ในการเลือกซื้ออย่างแรกที่ต้องคำนึงคือ เราเป็นมือใหม่หรือสามารถเล่นได้ในระดับหนึ่ง เพราะการเลือกให้เหมาะสมกับผู้ที่เล่น จะช่วยให้เราเลือกขลุ่ยที่เหมาะกับลักษณะการใช้งานด้วย ซึ่งราคาของเครื่องดนตรีจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ประกอบการผลิต เช่น
▪︎ วัสดุเนื้อไม้ ซึ่งการเนื้อไม้มาทำเครื่องดนตรีไทย มีค่านิยมสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว พื้นฐานมักใช้เนื้อไม้ไผ่ จะพิเศษก็ต้องเป็นไผ่ซาง จึงจะได้เนื้อเสียงที่ใส ไม่แหบหรือเพี้ยน แต่ทว่าความนิยมในไม้หายากที่ให้เสียงที่กังวานและได้เครื่องดนตรีประจำตัวที่สวยงาม และปราณีต เช่น ไม้ชิงชัน, และ ไม้งิ้วดำ,งานเนื้อไม้ประเภทนี้จะมีราคาปานกลาง- ราคาที่สูงขึ้นอยู่กับ ชนิดของตัวไม้นั้นๆ ด้วย ราคาของขลุ่ย ที่ทำจาก เนื้อไม้ชั้นดี บวกกับ ช่างฝีมือดี จึงมีราคาที่อยู่ใน หลักพัน ถึงหลักหมื่น
▪︎เนื้อพลาสติก เป็นรูปแบบของการหลอมจากวัสดุหลักคือ พลาสติกพีวีซี (PVC) มีความยาวและขนาดที่เหมือนรูปแบบของเครื่องดนตรีพื้นฐานทุกอย่าง เสียงโน๊ตเป็นคีย์ที่ค่อนข้างสูงแหลม เสียงไม่แตก แต่ก็ไม่ใสเหมือนขลุ่ยที่ทำจากเนื้อไม้ จึงมีราคาถูกในระดับหลักสิบ -หลักร้อยเท่านั้น มักใช้ สำหรับการฝึกหัดเล่นหรือใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนของนักเรียนนักศึกษา
สรุปท้ายบท
จะเห็นได้ว่าวิถีชีวิตของคนไทย ไม่ว่ายุคสมัยใด ต่างก็มีอารมณ์สุนทรีไปกับเสียงดนตรีที่ไพเราะได้เสมอ “ขลุ่ยเพียงออ” จึงเป็นเครื่องดนตรีที่ถูกนำมาขับบรรเลง เพื่อจุดประสงค์สำคัญคือ ให้ผู้ฟังได้รับความเพลิดเพลินและความประทับใจในทุกๆโอกาส และนี่คือที่มาว่าเหตุใดคนรุ่นหลังอย่างเราๆ ถึงยังคงมีเครื่องดนตรีโบราณใช้ร้อง ฟ้อนรำ กันในปัจจุบันนี้
เครดิตภาพ
http://https://www.canva.com/join/sry-rmx-qmw
เครื่องดนตรี อื่นๆ ที่น่าสนใจ